ย้อนกลับไปในปี 2018 ด้วยวัยเพียง 18 ปี เขาสามารถพาทัพ ‘ตราไก่’ เถลิงแชมป์ฟุตบอลโลก ก่อนที่ในอีก 4 ปีถัดมาจะซัดแฮททริคในรอบชิงชนะเลิศใส่ทีมชาติอาร์เจนติน่า ทว่าวันนั้นพระเจ้าถอยเหรียญออกข้าง ‘ฟ้าขาว’ เพราะเป็นการปราชัยในการดวลจุดโทษแค่นั้น

ชื่อเสียง และเงินทองรวมถึงอภิสิทธิ์ต่าง ๆ ที่เขาได้รับกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ส่งผลให้ได้รับสมญานามว่า ‘ประธานเป้’ จึงไม่แปลกที่ถึงแม้จะเก่งแค่ไหน เขาก็ยังดูน่าหมั่นไส้อยู่ดี โดยเฉพาะการที่ทีมมีทั้ง เมสซี่ กับ เนย์มาร์ แต่ว่าสปอตไลท์ก็ไปตกอยู่กับเขาเป็นหลัก

อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้เขาดูไม่เป็นที่รักของแฟนบอล คือการที่ปล่อยให้สัญญากับทีมชื่อดังของ ลีกเอิง คาราคาซังจนทำให้จบกันได้ไม่สวยเท่าไหร่ เพราะสุดท้ายเขาย้ายฟรี ๆ มาอยู่กับ เรอัล มาดริด เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

แล้วการที่ เอ็มบัปเป้ เริ่มต้นในเครื่องแบบสีขาวอันทรงเกียรตินี้ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ ก็ทำเอาหลายคนมองว่าสุดท้ายแล้วเขาอาจจะเดินตามรอย เอเดน อาซาร์ ที่พอได้ย้ายมาอยู่กับทีมในฝัน ก็ไม่เอาบ้าอะไรอีกแล้วกับฟุตบอล

เขากลายเป็นตัวตลกสำหรับแฟนบอลทีมอื่น หรือแม้แต่เหล่า ‘มาดริดดิสต้า’ ก็ดูจะเป็นกังวลกับสตาร์ค่าเหนื่อยแพงรายนี้อยู่ไม่น้อย 

แต่ว่าของจริงก็คือของจริง เพราะภายใต้ช่วงเวลาที่หลาย ๆ คนกำลังหัวเราะเขากับภาพมีมต่าง ๆ บนอินเตอร์เน็ต กลายเป็นว่าถึงตอนนี้ เอ็มบัปเป้ ทำไปแล้ว 27 ประตูจาก 37 นัดในทุกรายการของฤดูกาลนี้ โดยที่ทำแฮททริคไปแล้วถึง 2 ครั้ง แล้วการซัด 3 เม็ด ก็ไม่ใช่ใส่ทีมไก่กา แต่เป็นการยิงใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำเอาวินาทีที่เขาถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาทีที่ 78 แฟนบอลในสนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ยังพร้อมที่จะปรบมือโดยพร้อมเพียงเพื่อให้เกียรติกับสุดยอดนักเตะคนนี้

เอ็มบัปเป้ อาจเริ่มต้นกับ เรอัล มาดริด อย่างช้า ๆ แต่ตอนนี้มันชัดเจนแล้วว่าเขาเข้าไปอยู่ในใจของแฟนบอลเป็นที่เรียบร้อย และแน่นอนว่าหลังจากนี้ภารกิจไล่ล่าความสำเร็จมาประดับตู้โชว์ของสโมสรเพิ่ม พวกเขาก็พร้อมจะไล่ล่าแบบด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ที่กล้าพูดแบบนี้ เพราะว่าในทีแรกผู้คนต่างเป็นกังวลว่า ‘เสือ 2 ตัว จะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้’ เพราะในแนวรุกก่อนหน้านี้สโมสรมี วินิซิอุส จูเนียร์ อยู่แล้ว แต่กลายเป็นว่าตอนนี้ทั้ง 2 คน ก็ดูจะเริ่มสอดประสานงานกันได้อย่างลงตัว แถมเวลาที่ใครทำประตูได้ อีกคนก็เข้าไปเฮด้วยแบบชนิดที่สนิทสนมกลมเกลียว

คงไม่เป็นเรื่องเว่อเกินไปว่า เรอัล มาดริด พร้อมที่จะเดินหน้าประสบความสำเร็จ โดยที่ เอ็มบัปเป้ ก็พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องของการเขียนบันทึกประวัติศาสตร์ ซึ่งเรารู้กันดีว่าถ้วยยุโรปพวกเขาคือตัวเต็ง และถ้าทำได้ขึ้นมา ถึงตอนนั้นเรื่องน่าตื่นเต้นที่สุดอาจกลายเป็นว่า “เขาหรือ วินิซิอุส ใครกันที่จะคว้า บัลลงดอร์ ?”

เขียนโดย The Lite Team.

38 Drinks